สินสอดหาย 1 ล้าน ช่างภาพงานแต่งเครียดโดนเพ่งเล็ง เข้าให้ปากคำตำรวจ

สินสอดหาย 1 ล้าน ช่างภาพงานแต่งเครียดโดนเพ่งเล็ง เข้าให้ปากคำตำรวจ

ช่างภาพ ไปถ่ายงานแต่ง จบงาน ออแกไนซ์ โทรบอก สินสอดหาย 1 ล้าน โดนเพ่งเล็ง ขึ้นโรงพักให้ปากคำตำรวจ ก่อนออกมาโพสต์เตือนภัยบรรดาตากล้องและทีมงาน กลายเป็นประเด็นร้อนกับกรณี สินสอดงานแต่งงานแห่งหนึ่ง ที่สูญหายไปเป็นจำนวน 1 ล้านบาท เรื่องราวดังกล่าวเปิดเผยโดย ช่างภาพรายหนึ่ง โพสต์เล่าผ่านเฟซบุ๊ก นาทีโดนเพ่งเล็งว่าเป็นคนขโมยเงินสินสอด โดยหลังจากจบงาน ออแกไนซ์ งานแต่ง ได้ติดต่อเข้ามาพร้อมกับแจ้งว่า เงินสินสอดดังกล่าวหายไป ซึ่งต่อมาเรื่องราวถึงขั้นที่ ตากล้อง ต้องเดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

อ้างอิงข้อมูลจาากโพสต์ของช่างภาพ 

ระบุว่า เจ้าภาพให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ช่วงเวลาเลิก จบงาน มีแต่ช่างภาพกับออแกไนซ์ที่อยู่บนบ้าน โดยมีการเก็บเงินไว้ในห้องนอน ล็อคห้องแล้วแต่ลูกบิดไม่ค่อยดี (พวกผมเก็บอุปกรณ์กันอยู่บนบ้าน) ซึ่งนอกจากทีมงานผม ก็เห็นคนขึ้นลงบ้านอยู่เรื่อยๆนะครับ ไม่ได้มีแค่ทีมงาน 3 คน โดยหลังจากทราบเรื่อง ตากล้องและทีมงานก็รีบกลับไปที่บ้านจัดงาน สถานที่เกิดเหตุ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เจ้าตัวยืนยันว่า ให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ทางแม่เจ้าสาวได้เดินมาพูดแกมต่อว่าเสียงดังพร้อมสีหน้าไม่พอใจ เพราะปักใจว่าพวกช่างภาพเป็นฝ่ายเอาไป ทั้งที่ยังไม่ทันมีหลักฐานแน่นอน แม้จะมีการอธิบายบริเวณที่สินสอดหายนั้นมีคนจำนวนมาก

อีกทั้งทีมของช่างภาพก็ระบุว่า พวกเขาไม่มีเหตุจูงใจใดๆเลยที่จะต้องลักขโมยเงินสินสอดจำนวนนี้ แต่ถึงตอนนี้ ในส่วนคดีก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเก็บหลักฐาน และพิสูจน์ หาข้อมูล

เจ้าของเรื่อง ระบุอีกว่า ยังไม่สามรถให้ข้อมูลลงรายละเอียดอะไรได้มากนัก แต่ที่ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวทั้งหมด แค่อยากยกเป็นอุทาหรณ์ให้กับช่างภาพหรือตากล้องทีมงานอื่น เวลาไปถ่ายงานควรทำงานกันอย่างระมัดระวังที่สุด เดินเข้า ออกสถานที่จัดงาน อย่าไปคนเดียวควรมีบุคคลรู้เห็น และบันทึกทามไลน์ของตนเองให้ได้มากที่สุดไว้ด้วย

โพสต์เรื่องราวสินสอดหายนี้ ชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยนอกจากคอมเมนต์ให้กำลังใจแล้ว ความเห็นของผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งให้ความเห็นในฐานะที่ทำงานพิธีกร รวมถึงเป็นพิธีกรในงานแต่งซึ่งต้องทำงานยังสถานที่ของผู้ว่าจ้าง ก็เล่าในมุมมองของตัวเองว่า

“สิ่งที่ระวังเป็นที่สุดของคนรับจ้างทำงาน คือใกล้สิ่งของมีค่า ในฐานะที่ทำพิธีกรงานแต่ง เกือบทุกครั้งก่อนงานจะต้องเช็คสินสอดว่าได้จัดวาง จัดเตรียมแล้ว หรือยัง เพราะบางครั้งมีแต่ตลับทอง อาจลืมใส่บ้าง ยังไม่ใส่ทองบ้าง เพื่อในพิธีจะได้ไม่ติดขัด และทุกครั้งที่เช็ค จะไม่ไปคนเดียว ต้องมีญาติหรือ ผู้ดูแลที่เจ้าภาพเตรียมไว้เสมอ และเมื่อเสร็จพิธี ตนเองจะให้เตรียมที่เก็บให้ดีที่สุดเสมอ ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ต้องสงสัยคือทุกคนที่ร่วมงาน นั้นแหละ”

“… อ่าน ผู้โพสแล้วสงสารเลย เพราะดันอยู่ใกล้ แต่เชื่อว่า มันพิสูจน์ได้ไม่ยาก ลอยนิ้วมือต่างๆ เงินขนาดนี้ #คดีต้องพลิก”

เตือนภัยผู้ปกครอง ชายแปลกหน้า กอด-จูบ ลวนลาม ด.ญ. ถึงในบ้าน

เพจดังโพสต์แฉพฤติกรรม หนุ่มโรคจิต คุกคาม กอดจูบ ด.ญ. ถึง ในบ้าน ผู้ปกครองเห็นรีบวิ่งออกมาไล่ ชายแปลกหน้าค่อยๆ เดินหน้า ไม่สะทกสะท้าน

เหตุการณ์สะเทือนใจคนเป็นพพ่อ-แม่ หลังจากเหฟซบุ๊กแฟนเพจ “Survive – สายไหมต้องรอด” โพสต์คลิปเตือนภัยคนเป็นผู้ปกครอง โดยเป็นภาพจากวงจรปิดหน้าบ้านหลังหนึ่ง ขณะที่เด็กผู้หญิง อายุประมาณ 3-4 ขวบ ยืนอยู่หน้าบ้านคนเดียว ในบริเวณรั้วบ้าน อยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาถึงในบ้าน

ก่อนจะปรี่เข้ามาคุกคามด้วยการจูบปากเด็กหญิง เมื่อผู้ปกครองของเด็กหญิงเห็นก็รีบมาไล่ชายคนดังกล่าวทันที ซึ่งจากในคลิปจะเห็นว่า ขณะที่กำลังโดนผู้ปกครองของเด็กวิ่งออกมาไล่ตะเพิดนั้น ชายแปลกหน้าดู้หมือนจะไม่มีท่าทีตกใจ หรือรีบวิ่งหนีจากจุดที่เกิดเหตุ โดยเจ้าตัวเพียงแค่ค่อยๆ เดินออกไปหยิบถุงสีดำซึ่งวางไว้หน้าบ้านแล้วคลิปก็ตัดจบไป

สำหรับเหตุการณ์นี้ยังไม่มีรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสามารถติดตามจับกุมชายคนดังกล่าวมาดำเนนิคดีแล้วหรือไม่ ท่ามกลางสังคมที่ต่างกำลังหวาดผวากับพฤติกรรมของชายแปลกหน้าดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ผมทราบภายหลัง หลังออกมาเป็นข่าว เห็นว่ามีลิ้นจี่ด้วย เอาออกมาจากกระเป๋า แสดงว่ากระเป๋านั้นเตรียมหลายวันแล้ว ผมก็สงสัยว่าทำไมต้องเตรียมเสื้อผ้าให้ผมเอาไปให้ลูกเขา ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยว่ารองเท้าเป็นของใคร ตายหรือไม่ตาย พ่อแม่เขาต้องออกมาชี้แจงว่าทำไมต้องเตรียม แล้วรู้ได้ยังไงว่าต้องเจอ เจอในสภาพไหน

ก็มีสิทธิ์สงสัย แต่วันเกิดเหตุผมไม่เจอหน้าน้องชมพู่เลย ถ้าสงสัยเรื่องความผูกพันระหว่างผมกับชมพู่ เหมือนสามีคู่หนึ่งที่มาออกรายการครั้งก่อนที่เอ่ยชื่อผมออกไป ก็ขอบคุณที่เขาบอกว่าผมสนิทสนมกับครอบครัวชมพู่ แต่จริงๆ ต้องพูดให้มากกว่านี้ คนในครอบครัวสนิทกับชมพู่หมด มีความรักและเอื้ออาทรหมด ไม่ใช่มีแค่ผมที่สนิท ควรพูดให้หมดเลย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป